ทัวร์แคชเมียร์ใต้ฟ้าหิมาลัย Winter in Kashmir 7D 6N
ทัวร์
อินเดีย(ทั้งประเทศ)
ระยะเวลา
7 วัน 6 คืน
สายการบิน
วันเดินทาง
9-15 ก.ย. / 12-18 ต.ค. 2567
Hilight

ทัวร์แคชเมียร์ใต้ฟ้าหิมาลัย สุดยอด !! นอนดี กินอิ่ม เที่ยวครบ พักโรงแรมดี (จัดกรุ๊ปเล็ก 10 ท่านเท่านั้น)

โกลบอล ฮอลิเดย์ ขอแนะนำท่านเดินทางสู่ แคชเมียร์  อัญมณีแห่งดินแดนใต้ฟ้าขอบหิมาลัย หรือที่นักเดินทางท่องเที่ยวยกย่องและกล่าวขานว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์แห่งแดนภารตะ สัมผัสวิถีชีวิตของชาวแคชเมียร์ด้วยการใช้ชีวิตในเรือบ้าน นอนพักผ่อนท่ามกลางทะเลสาบและขุนเขา ดูนกชมไม้หลากหลายชนิด มีคำกล่าวสำหรับวิถีชีวิตชาวแคชเมียร์บนทะเลสาบดาล “กล่าวกันว่า หากใครที่เดินทางมาแคชเมียร์แล้วไม่ได้มาพักเรือบ้านก็เปรียบเสมือนว่าท่านมาไม่ถึงแคชเมียร์” ด้วยการตกแต่งภายในเรือบ้านที่ใช้ไม้สนซีดาลแกะสลักลวดลายแบบศิลปะของแคชเมียร์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในดินแดนแห่งนี้ การมาเยือนแคชเมียร์จะไม่สมบูรณ์แบบจนกว่าคุณจะได้ล่องเรือชิคาร่าไปตามทะเลสาบ สัมผัสประสบการณ์กับการนั่งเรือชิคาร่าซึ่งเป็นพาหนะสำคัญและผูกพันกับชาวแคชเมียร์มานาน แคชเมียร์ยังเป็นดินแดนสวรรค์ของคู่รักฮันนีมูนโดยเป็นที่เปรียบเปรยเหมือนสวรรค์บนดิน

แผนการท่องเที่ยว
  • Day 1
    กรุงเทพฯ - เดลี
    • 05.30 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 10 Row W โดยสายการบิน AIR INDIA โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน
      08.55 น. เหินฟ้าสู่ กรุงเดลี ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI333 (08.50-12.05)
      (ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง 35 นาที) (บริการอาหารบนเครื่องบิน)
      12.00 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี กรุงเดลี หลังผ่านพิธี การตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยและรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมือง

      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      บ่าย นำท่านชม ประตูเมืองอินเดีย (India Gate) หรือชื่อเดิม อนุสรณ์สถานแห่งสงครามทั้งปวงของอินเดีย (All India War Memorial) ตั้งอยู่ในเมืองนิวเดลี สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารอินเดียที่สละชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ลักษณะของประตูเมืองอินเดียแห่งนี้สร้างขึ้นตามแบบอย่างของประตูชัย โดยเลียนแบบประตูชัยคอนสแตนตินในโรม 
      จากนั้นนำท่านชม วัดอักชาร์ดัม (Akshardham Temple) หรือ เดลี อักชาร์ดัม (Delhi Akshardham) ได้รับการประกาศจาก Guinness World Record ในปีค.ศ. 2007 ให้เป็นวัดแห่งศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นด้วยหินทรายแบบดั้งเดิม ภายนอกของวัดถูกแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามเป็นลวดลายหรูหราตามสไตล์อินเดียที่ใช้ช่างฝีมือกว่า 7,000 คน การตกแต่งของวัดคล้ายกับเป็นสวนสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งเขียวชอุ่มไปด้วยต้นหญ้า มีวิหารกลางน้ำตั้งเป็นศูนย์กลาง ล้อมรอบด้วยกำแพงที่แกะสลักอย่างปราณีต พื้นโดยรอบปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลแดง

      เย็น           รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Aerocity Hotel 5*, New Delhi หรือเทียบเท่า
  • Day 2
    เดลี - ศรีนาคา - สวนโมกุล
    • เช้า รับประทานอาหารในโรงแรม 
      ได้เวลาพอสมควร เดินทางไปสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี เพื่อเช็คอินสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ 
      10.15 น. เหินฟ้าสู่ เมืองศรีนาคา ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 825 (10.15-11.45)
      (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 35 นาที) 
      11.50 น. เดินทางถึงสนามบินศรีนาคา หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว พบกับไกด์ท้องถิ่น แล้วเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง ศรีนาคา เป็นเมืองหลวงฤดูร้อนของแคว้นจามมูและแคชเมียร์ คือ เมืองแห่งทะเลสาบท้องน้ำ เรือกสวนและสิ่งปลูกสร้างที่มีความสวยงามเหมือนภาพวาด ศรีนาคาตั้งอยู่ ณ ใจกลางของหุบเขาแคชเมียร์ที่ระดับความสูง 1,730 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีทิวทัศน์สวยงามยิ่ง สามารถเยี่ยมชมได้ทั้งปี

      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      บ่าย หลังอาหารแล้ว นำท่านชม สวนชาลิมาร์ ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โมกุลในเมืองศรีนาคา แคชเมียร์เป็นแคว้นที่มีชื่อเสียงในการจัดสวนตามสไตล์ของราชวงศ์โมกุล เนื่องจากภูมิอากาศเย็นเหมาะสมในการเจริญเติบโตของต้นไม้ดอกไม้ จึงกลายเป็นที่ประทับพักผ่อนของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีต สวนชาลิมาร์แห่งนี้เป็นสวนแห่งความรักสร้างโดยจักรพรรดิ์ชาฮังคี ช่วงน้ำหลากน้ำพุภายในสวนเกิดขึ้นได้โดยแรง ดันน้ำธรรมชาติที่มาจากภูเขา ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สีสันของดอกไม้แปลกตาและหลากหลายแข่งกันออกดอกให้ท่านยลโฉม รวมทั้งต้นชีน่าร์ (ชื่อต้นไม้ที่เรียกตามภาษาท้องถิ่น) หรือเมเปิ้ล ซึ่งใบจะมีขนาดใหญ่ ต้นไม้ในสวนแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากบางต้นมีอายุกว่า 300-400 ปี จากนั้นนำชม สวนนิชาท ตั้งอยู่บนฝั่งของทะเลสาบดาล มีภูเขาซาร์บาวาลตั้งเป็นฉากหลัง เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด มีต้นเมเปิ้ลอายุกว่า 400 ปี รวมถึงดอกบัวสวรรค์ที่หาพบเห็นได้ยากและดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดิน หนุ่มสาวชาวแคชเมียร์มักใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่นัดหมาย พูดคุย และบางครอบครัวก็มาปิคนิคทานอาหารเย็นกันที่สวนแห่งนี้ 
      ที่ระดับความสูง 1,730 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีทิวทัศน์สวยงามยิ่ง สามารถเยี่ยมชมได้ทั้งปี

      เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารในเรือบ้าน
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Deluxe Houseboat หรือเทียบเท่า
  • Day 3
    ศรีนาคา - กุลมาร์ค
    • เช้ามืด นำท่านลงเรือชิคาร่าสู่ ตลาดน้ำ (Floating Market) ท่ามกลางอากาศเย็น ระหว่างทางนั่งเรือ จะผ่านสวนผักลอยน้ำและร้านค้าที่ปักหลักกันกลางทะเลสาบและตามสันดอน สัมผัสวิถีชีวิตของพ่อค้าตัวจริงชาวแคชเมียร์เหนือท้องน้ำ (ไม่เห็นแม่ค้าเลย) และชาวสวนผักที่พร้อมใจกันมาซื้อขายแลกเปลี่ยนผลผลิตกันที่ตลาดน้ำ เก็บภาพบรรยากาศยามเช้าที่ดูมีชีวิตชีวาและมีสีสันสุขบันเทิง ครั้นได้เวลาพอสมควร นำท่านล่องเรือกลับไปยังเรือบ้าน
       
      เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในเรือบ้าน
      นำท่านขึ้นฝั่งเพื่อเดินทางสู่ กุลมาร์ค ซึ่งชาวแคชเมียร์กล่าวขานว่า Meadow of Flower หรือทุ่งหญ้าแห่งดอกไม้ เป็นเส้นทางที่มุ่งสู่ชายแดนปากีสถาน (ระยะทางราว 56 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง) กุลมาร์คเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีระดับความสูง 2,730 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในช่วงฤดูร้อนที่นี่จะเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก ส่วนในช่วงฤดูหนาวมีหิมะปกคลุมไปทั่ว ที่นี่กลายเป็นสถานที่เล่นสกี โดยรอบท่านจะได้พบเห็นกระท่อมรูปทรงแบบในเทพนิยายและมี ป่าสนเป็นฉากหลัง ที่นี่ยังสถานเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ของอินเดียอีกแห่งหนึ่งด้วย 
      นำท่าน ขึ้นเคเบิ้ลคาร์เฟส 1 (กระเช้าลอยฟ้าหรือกอนโดลา สำหรับเฟส 1 รวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว) ไปจนถึงยอดเขากุลมาร์ค ระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขากุลมาร์ค ท่านจะพบเห็นหมู่บ้านยิปซีในเบื้องล่างซึ่งจะอพยพไปอยู่ที่เมืองจามมูในช่วงฤดูหนาว และจะกลับมาอยู่อาศัยที่นี่ในช่วงฤดูร้อน เมื่อถึงบนยอดเขากุลมาร์ค ถ้าหาก
      ฟ้าเป็นใจไม่มีหมอกจัด ท่านจะได้ถ่ายรูปกับทิวทัศน์ภูเขาที่บางยอดยังมีหิมะปกคลุมสวยงามในทุกทิศทาง รวมถึงยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองรองของโลกจากยอดเขาเอเวอร์เรสต์ (สำหรับท่านที่ต้องการพิชิตยอดเขากุลมาร์คที่สูงขึ้นไปอีก ก็สามารถซื้อบัตรกอนโดลาขึ้นเฟส 2 แต่ไม่รวมในค่าทัวร์ การขึ้นกอนโดลาเฟส 2 ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละวัน) อิสระตามอัธยาศัยให้ท่านถ่ายรูปทิวทัศน์ของภูเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย  (ในฤดูหนาวท่านสามารถเล่นกิจกรรมนั่งเลื่อน เล่นสกีตามอัธยาศัย) 

      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      บ่าย ได้เวลาพอสมควร เดินทางกลับสู่ เมืองศรีนาคา ต่อด้วยพาท่านไปชม มัสยิดเขียว หรือที่เรียกว่า มัสยิดชาห์ฮามดาน ซึ่งสร้างเพื่อระลึกถึงและเคารพบูชานักบวชผู้เผยแพร่ศาสนาอิสลามคนสำคัญที่มีชื่อว่า Mir Syed Ali Hamdani เป็นมัสยิดแห่งแรกในแคชเมียร์ ภายในมัสยิดนี้ถูกตกแต่งด้วยเปเปอร์มาเช่โดยส่วนใหญ่เป็นสีเขียวประดับประดาไว้อย่างสวยงาม 

      เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารในเรือบ้าน
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Deluxe Houseboat หรือเทียบเท่า
      HOUSEBOAT บรรยากาศบนเรือบ้านจะขาดเสียไม่ได้ คือ พ่อค้าหน้าไม่ค่อยใส (เพราะหนวดเครา) ที่เพียรพยายามเสนอขายสินค้าพื้นเมืองให้แก่ท่าน ไม่ว่าจะเป็น สินค้าที่ระลึกที่ทำมาจากกระดาษอัด หรือ PaperMache ไม้แกะสลัก ผ้าคลุมไหล่ สร้อย กำไล เป็นต้น หากท่านไม่มีเงินรูปี ยังสามารถแลกกับนายธนาคารซึ่งลอยเรือ (ธนาคารเคลื่อนที่) คอยให้บริการท่านได้ 
  • Day 4
    ศรีนาคา - พาฮาลแกม
    • เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารในเรือบ้าน เก็บสัมภาระให้เรียบร้อยแล้ว 
      นำท่านขึ้นฝั่งแล้วขึ้นรถเพื่อออกเดินทางไปยัง หุบเขาแกะ หรือ พาฮาลแกม ห่างจากเมืองศรีนาคาไปทางทิศตะวันออกประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง 30 นาที เป็นชุมทางที่คนท้องถิ่นใช้เป็นเส้นทางเข้าสู่เมืองจามมูและเดลี “พาฮาลแกม” เป็นเมืองที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,130 เมตร เป็นสถานที่มีชื่อเสียงที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดีย ระหว่างทางสองข้างทางท่านจะผ่านพบวิถีชีวิตของชาวแคชเมียร์ที่หลากหลาย เช่นหมู่บ้านที่ทำครกหิน หมู่บ้านที่ทำไม้แบดสำหรับกีฬาคลิกเก็ต ที่เราจะพบเห็นชาวแคชเมียร์เล่นกีฬาประเภทนี้ได้ตามสนามทั่วไป ไม้แบดนี้ทำมาจากต้นหลิว (Willow Tree) ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปทั้งในและนอกเมือง
       
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      บ่าย อิสระให้ท่านขี่ม้าแคระ (มีคนจูง) ที่ลัดเลาะไปตามหุบเขาไปสู่จุดชมวิวของหุบเขาพาฮาลแกม (ขี่ม้าไป-กลับประมาณ 2 ชั่วโมง) เส้นทางการขี่ม้าอาจเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลต่างๆ บางช่วงเส้นทางลัดเลาะไปตามหมู่บ้าน ให้ท่านได้สัมผัสชีวิตของชาวแคชเมียร์ท้องถิ่นอย่างแท้จริง (ค่าขี่ม้าไม่รวมในค่าทัวร์) 
      สำหรับท่านที่ไม่ขี่ม้า สามารถเดินสำรวจ หรือเลือกซื้อสินค้าท้องถิ่น อาทิ ผ้าแคชเมียร์ รูปแบบต่างๆ ไม่ว่า
      จะเป็น เสื้อ ผ้าพันคอ กระเป๋า ผ้าปูเตียง ปลอกหมอนอิง เป็นของฝากสำหรับการมาเยือนแคชเมียร์ ได้เวลาพอสมควร เดินทางกลับสู่ เมืองศรีนาคา  

      เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Four Points by Sheraton 4*, Srinagar หรือเทียบเท่า
  • Day 5
    ศรีนาคา - โซนามาร์ค
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      นำท่านเดินทางสู่ โซนามาร์ค ซึ่งจะพบกับทิวทัศน์ที่น่าตื่นเต้นตระการตาของธรรมชาติเบื้องหน้า เส้นทางที่ไต่ระดับความสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมทิวทัศน์ของชนบทแคชเมียร์ ความสูงไล่ขึ้นไปถึงระดับ 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ระยะทางห่างจากศรีนาคา 80 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง และมีเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลังที่เรียกขานตามภาษาท้องถิ่นว่า ทาจิวาส ภูเขา
      ซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดปี มีแม่น้ำสินธุ ลดเลี้ยวผ่านหุบเขาในอีกฟากของถนน “โซนามาร์ค” เป็นสถานีจุดเริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังดินแดนลาดักห์ หรือรู้จักกันดีในชื่อว่า “ประตูสู่ลาดักห์” 
       
      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      บ่าย ท่านสามารถเดินชมธรรมชาติสัมผัสอากาศที่หนาวเย็น ชมวิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวบนยอดเขาขาวโพลนจนแสบตา และในฤดูหนาวสองฟากถนนก็จะเต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูหนาวถนนบางช่วงต้องตัดผ่านช่องน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่นี่จะมีกิจกรรมแบบแคชเมียร์ให้ท่านได้ลองหาประสบการณ์ขี่ม้า หรือเดินเล่นถ่ายรูปภาพวิว 360 องศาตามอัธยาศัย (ค่าขี่ม้าไม่รวมในค่าทัวร์) ได้เวลาพอสมควร เดินทางกลับสู่ เมืองศรีนาคา 
      นำท่านชม จามามัสยิด ซึ่งสร้างเป็นครั้งแรกสมัยสุลต่านสิคานเดอร์ และบูรณะต่อมาอีกหลายสมัย ซึ่งเป็นมัสยิดที่สร้างด้วยรูปแบบของสถาปัตยกรรมแบบผสมของเนปาลด้วยหลังคาทรงสี่เหลี่ยม ภายในมีเสาที่ตัดจากต้นซีดาลทั้งต้นกว่า 300 ต้นเรียงรายอยู่ (ท่านสามารถร่วมทำบุญและบริจาคเพื่อช่วยทะนุบำรุงสถานที่ได้ตามแต่จิตศรัทธา)  ต่อจากนั้นนำท่านแวะชม มัสยิดขาว หรือ Hazratbal Mosque สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม เพราะเป็นที่เก็บหนวดเคราของศาสดาโมฮัมหมัด ทุกวันศุกร์ชาวมุสลิมจะมาสวดมนต์และขอพรที่นี่ จากนั้นนำท่านเดินเล่นตลาดรอบๆ มัสยิด ชมวิถีชีวิตของพ่อค้าและชาวบ้านที่มาจับจ่ายสินค้าในชีวิต ประจำวัน ผ่านร้านโรตีขนาดยักษ์ที่จะพบเห็นได้ที่นี่เท่านั้น 

      เย็น           รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Four Points by Sheraton 4*, Srinagar หรือเทียบเท่า
  • Day 6
    ศรีนาคา – เดลี
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      อำลาดินแดนแห่งวิมานฟ้าใต้ขอบหิมาลัย แล้วเดินทางสู่ สนามบินศรีนาคา เพื่อเตรียมตัวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ

      กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (Box Lunch)
      12.30 น. เหินฟ้าสู่ กรุงเดลี ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 826 (12.20-14.05)
      (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 35 นาที) 
      14.05 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว นำท่านชม ป้อมแดง (Red Fort) หรือ ลาลกีล่า (Lal Qila) เป็นป้อมปราการในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 ใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โมกุล ไฮไลท์อยู่ที่อาคาร Diwan-i-Am เป็นอาคารสีแดงที่ตั้งอยู่ตรงกลาง ภายในมีบัลลังค์หินอ่อนของมหาราชาที่เก็บอนุรักษ์ไว้ในห้องกระจก และอาคาร Rang Mahal ที่ตั้งอยู่ทางด้านหลัง มีการแกะสลักหินอ่อนเป็นรูปดอกไม้ ประดับที่เสาและฝ้าเพดานอย่างงดงาม และป้อมแดงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ. 2007

      ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารในโรงแรม
      เข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Aerocity Hotel 5*, New Delhi หรือเทียบเท่า
  • Day 7
    เดลี - กรุงเทพฯ
    • เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
      10.40 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี เตรียมตัวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ
      13.40 น. เหินฟ้าสู่ กรุงทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 332 (13.45-19.20)
      (ใช้เวลาบิน 4 ชั่วโมง 25 นาที) (บริการอาหารบนเครื่องบิน)
      19.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
Top